Tournament โป๊กเกอร์ดีอย่างไร? มือใหม่ควรหัดเล่นดีไหม?
ในบทความที่แล้วผมก็ได้พูดถึงชนิดของโป๊กเกอร์ที่คนนิยมเล่นกันไปแล้วว่ามีกี่ชนิดและแต่ละชนิดต่างกันอย่างไรบ้าง คราวนี้เรามาพูดถึงรูปแบบในการเล่นกันดีกว่า ซึ่งในโป๊กเกอร์นั้นหลักๆจะมีอยู่ 2 รูปแบบคือ 1. Cash Game และ 2. Tournament
มือใหม่หลายคนอาจจะเล่นสลับไปสลับมาจนทำให้รู้สึกพัฒนาได้ช้า เพราะทั้งสองรูปแบบนั้นต่างใช้ทักษะและ Mindset สำหรับการทำกำไรที่แตกต่างกันซึ่งถ้าให้ผมแนะนำก็คงอยากให้เลือกเล่นทีละรูปแบบก่อนดีกว่า เพราะฉะนั้น เดี๋ยวเรามาดูข้อดีข้อเสียของ Tournament กันก่อนดีกว่า
ข้อดีของ Tournament
1. เวลาได้ ได้เยอะ
การเล่น Tournament เราจะไม่ได้แชมป์หรืออันดับต้นๆบ่อยมากนัก แต่พอได้มาทีนึงแน่นอนว่ากำไรมหาศาล ด้วยค่าสมัครแค่ $1 ก็อาจจะทำกำไร $100-$200 เหรียญได้ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งวัน ซึ่ง Cash Game แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำกำไรได้เร็วขนาดนี้ และนอกจากจะได้เงินรางวัลสูงแล้ว การเล่น Tournament ยังได้ชื่อเสียงมากกว่าด้วย ลองคิดดูว่าเราได้แชมป์พร้อมกำไล WSOP มาสักครั้งชื่อเสียงต้องดังกระฉ่อนแน่ๆ
2. มีผู้เล่นที่ไม่เก่งเยอะ
ส่วนใหญ่แล้วการแข่ง Tournament จะออกกาศผ่านทางสื่อต่างๆ ซึ่งสื่อพวกนี้ก็จะดึงดูดให้ผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาลองสัมผัสกับเกมดู ไม่ว่าจะเข้ามาเพราะอยากลองเสี่ยง อยากได้เงินเยอะๆ หรืออยากเล่นกับโปรเก่งๆ ทำให้ตรงนี้ในทัวร์นาเมนต์จะมีผู้เล่นมือใหม่อยู่เยอะกว่า Cash Game มาก
3. แม้ Stakes จะสูงแต่ก็ยังเล่นง่ายกว่า
อย่างที่บอกว่าผู้เล่นใหม่ๆมักจะถูกดึงดูดให้เข้ามาเล่นผ่านทางสื่อต่างๆซึ่งทำให้ตรงนี้แม้จะอยู่ใน Stakes การเล่นระดับสูงก็จะยังมีผู้เล่นที่ไม่เก่งอยู่มากพอสมควร ซึ่งลองคิดดูว่าถ้าเราได้เล่น Cash Game กับผู้เล่นที่ไม่เก่ง บายอินเข้าไป $100 เวลาชนะก็ได้แค่ $100 แต่ถ้าเราเล่นกับคนไม่เก่งใน Tournament เราบายอินเข้าไป $100 ตอนชนะเราอาจจะได้คืนมา $10000 เลยก็ได้
ข้อเสียของ Tournament
1. ความผันผวน (Variance) เยอะมาก
อย่างที่ Jason Somerville เจ้าของเว็บไซต์ชื่อดังอย่าง Runitup กล่าวไว้ว่า “ทัวร์นาเมนต์ก็คือล็อตเตอรี่ที่คนเล่นเก่งมีโอกาสถูกมากกว่าคนอื่น” ความผันผวนคือธรรมชาติของโป๊กเกอร์อยู่แล้ว แต่สำหรับ Tournament ก็จะต่างออกไปตรงที่เงินรางวัลของ Tournament ส่วนใหญ่จะไปกองอยู่ในช่วงท้ายๆของการเล่น ซึ่งตรงนี้เราเลือกไม่ได้ว่าอยากจะโดนความผันผวนนี้เล่นงานตอนไหน ในทัวร์ใหญ่หรือทัวร์เล็ก ทำให้ตรงนี้มีผลอย่างมากทั้งเรื่องสภาพจิตใจและการเงินของเรา ข้อนี้อยากให้ทุกคนคิดถึงเป็นอันดับแรกๆเลย
2. ใช้เวลานาน
เวลาเล่น Tournament เราจะไม่มีทางได้เงินเลยจนกว่าจะอยู่รอดไปจนถึงช่วง ITM หรือแม้แต่ ITM ไปแล้วก็อาจจะยังไม่คุ้มกับเวลาที่เสียอยู่ดี ถ้าจะให้คุ้มจริงๆอาจจะต้องไปจนถึงระดับ Final Table หรือคว้าถ้วยแชมป์มา และแน่นอนว่าถ้าเราตกรอบก่อนสิ่งที่เล่นมาทั้งหมดก็จะสูญเปล่า
3. ต้องการ Bankroll ที่มากกว่า
อย่างที่บอกว่า Variance ของ Tournament มีมากกว่า เพราะฉะนั้น Bankroll ที่ใช้ก็จะมากกว่าเช่นกัน สำหรับ Cash Game 100 บายอินอาจจะเพียงพอแล้ว แต่สำหรับ Tournament อาจจะต้องใช้มากกว่านั้นอีก อาจจะอยู่ในช่วง 200-1000 บายอินซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับฝีมือของเราด้วย
ก็น่าจะมีประมาณนี้นะครับสำหรับข้อดีและข้อเสียของ Tournament ใครความอดทนสูงๆ ทนรับความผิดหวังและความเจ็บปวดได้ดีผมว่าเหมาะมากสำหรับทัวร์นาเมนต์ แต่ก็อย่าลืมบริหาร Bankroll ดีๆด้วยนะครับ แล้วเดี๋ยวบทความหน้าเรามาต่อกันที่ข้อดีและข้อเสียของ Cash Game กัน
ส่วนใครที่อยากมีโอกาสถูกล็อตเตอรี่มากกว่าคนอื่นเหมือนที่ Jason Somervile ได้กล่าวไว้ ตอนนี้ทาง Pokerspace ก็มีคอร์สทัวร์นาเมนต์ของคุณ Guiman แห่ง Thaipokerbeast วางจำหน่าย สามารถดูรายละเอียดได้ที่ลิงก์นี้เลย https://bit.ly/3myUnXI