บทความที่แล้วเราก็พูดถึงข้อดีข้อเสียของ Tournament กันไปแล้ว โดยหลักๆแล้วข้อดีก็จะอยู่ที่การได้ผลตอบแทนที่เยอะในช่วงเวลาไม่นานและได้เล่นกับมือใหม่เยอะ ส่วนข้อเสียก็คือการที่เราต้องทนกับ Variance ให้ได้และต้องการ Bankroll กับระยะเวลานานในการเล่น เดี๋ยวคราวนี้เรามาต่อกันที่ข้อดีข้อเสียของ Cash Game กันบ้างนะครับ

สำหรับสาย Cash Game ผมว่าหลายคนก็คงน่าจะชื่นชอบและติดใจมาจากการเล่นอันดุเดือดของโปรต่างประเทศกันเป็นส่วนใหญ่ ทั้ง Tom Dwan เอยทั้ง Phil Ivey เอยและคนอื่นๆอีกมากมาย อย่างล่าสุดที่เห็นก็รายการของ Triton Poker ที่มีการนำเกมชนิดใหม่อย่าง 6+ มาเล่นโชว์ซะด้วย เดี๋ยวเรามาดูข้อดีข้อเสียของ Cash Game กันเลยดีกว่า

ข้อดีของ Cash Game

1. อิสระในเรื่องจัดตารางการเล่น

ใน Cash Game เราสามารถนั่งเล่นหรือลุกออกจากโต๊ะเมื่อไหร่ก็ได้ วันไหนเหนื่อยๆอยากเล่น 30 นาทีก็ยังได้ วันไหนฟิตหนักอยากนั่งปั่นทั้งวันทั้งคืนก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งจะต่างจากทัวร์นาเมนต์ที่พอเลือกจะเล่นแล้วก็ต้องนั่งต่อให้สุดจนกว่าจะตกรอบ โดยกว่าจะจบสักหนึ่งทัวร์นาเมนต์ก็อาจจะกินเวลา 8-10 ชั่วโมงเลยก็มี ทำให้หลายคนที่ชอบมีชีวิตอิสระเลือกที่จะเล่น Cash Game มากกว่า

2. เล่นท่ายากได้เยอะขึ้น

เราอยู่ใน Cash Game ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลกับเรื่อง Pay jump หรือระดับ Blind ที่เพิ่มขึ้นอีกแล้ว สิ่งที่เราควรจะโฟกัสก็แค่การเล่น Post-flop หน้าตักหนาๆและหาวิธีมาเอาเปรียบอีกฝ่ายแค่นั้นเอง

3. มี Variance น้อยกว่า

เราจะไม่มีทางได้เจอ Variance เหมือนสาย Tournament ที่บางเดือนหรือบางปีที่แทบไม่มีกำไรเลย แต่สำหรับสาย Cash Game ที่เก่งๆถ้าขยันเล่นเพิ่มจำนวนแฮนด์ (Volume) ยังไงก็บวกได้สบายๆ

4. ใช้ Bankroll น้อยกว่า

สาย Tournament 100 บายอินยังมองว่าน้อยไป แต่สาย Cash Game ถ้าเก่งๆแค่ 40-50 บายอินก็สามารถอยู่ได้สบายแล้ว

ข้อเสียของ Cash Game

1. Regular เยอะมาก

Regular หรือ Regs หมายถึงพวกขาประจำที่เรามักจะเจอบ่อยๆบนโต๊ะซึ่งผู้เล่นพวกนี้มักจะเล่นเก่งและส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นที่เล่นเพื่อหาเลี้ยงตัวเองด้วย ทำให้ตรงนี้บางครั้งเราก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจอกับคนเก่งๆและทำเงินได้ยากขึ้น

2. ให้ความรู้สึกเหมือนทำงาน

การที่เราไม่มี Pay jump ก็หมายความว่าเราชนะตูมเดียวแล้วไม่ได้รวยในทันที ซึ่งทำให้ตรงนี้หลายคนอาจจะเบื่อที่ต้องมานั่งคลิกๆแล้วก็เจอกับพวก Regular หน้าเดิม เงินก็ขึ้นๆลงๆทีละนิดทีละหน่อยจนเรารู้สึกว่า นี่มันก็ไม่ต่างอะไรกับการนั่งทำงานในออฟฟิศเลยนี่นา

3. เราไม่มีทางได้เห็นเงินก้อนโตในทันที

สำหรับ Cash Game มากสุดที่เราจะทำกำไรได้ใน 1 รอบการเล่น (Session) ก็จะอยู่ที่ประมาณ 15-20 บายอิน แต่ส่วนใหญ่แล้วเราก็จะได้กันที่ประมาณแค่ 2-3 บายอินเท่านั้นแหละ ซึ่งตรงนี้ต่างกับ Tournament มาก เพราะหากเราชนะในทัวร์เราอาจจะได้คืนมาเป็น 100 บายอินเลยก็ได้

4. Rake มักจะสูงกว่า

ใน Tournament ค่า Rake จะเก็บก็ต่อเมื่อเราบายอินเข้าไปเล่น แต่สำหรับ Cash Game ค่า Rake จะเก็บทุกครั้งที่เราชนะ Pot มา ซึ่งทำให้ตรงนี้ส่งผลต่อกลยุทธ์ในการเล่นเช่นกัน

ก็คงมีประมาณนี้นะครับสำครับสาย Cash Game ผมหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้มือใหม่ที่ยังตัดสินใจไม่ได้ได้ลองชั่งน้ำหนักกันดูนะครับว่าตัวเราเหมาะจะไปสายไหนมากกว่า แต่ท้ายที่สุดแล้วผมอยากให้เราเลือกอันที่เล่นแล้วสนุกดีกว่า ผมไม่อยากให้มองว่ามันเป็นงาน ถ้าเราทำอันไหนแล้วรู้สึกสนุกและมีความสุขผมว่าเราก็ควรทำสิ่งนั้นนะ

ก่อนจะจากกันไปก็ฝากคอร์สของทาง Pokerspace ไว้ด้วยนะครับ มีครบสำหรับนักโป๊กเกอร์ทุกคนไม่เกี่ยงว่ามือใหม่หรือมือเก่า ไม่ว่าจะเป็นสาย Cash Game หรือ Tournament เรามีครบ หากสนใจก็ดูรายละเอียดแต่ละคอร์สได้ที่ https://pokerspace.co/ เลยนะครับ